ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับยิมนาสติก “ยิมนาสติก” เป็นคําที่มาจากภาษากรีกโบราณ แปลว่า กีฬาหรือกรีฑา, อันเป็นการเล่นเพื่อออกกําลังกาย ทําให้ร่างกายแข็งแรง จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์และการพลศึกษาพอเชื่อได้ว่า ประเทศกรีกและโรมันได้เริ่มสนใจและฝึกฝนกีฬายิมนาสติกอย่างจริงจัง ชาวกรีก โบราณถือว่า ยิมนาสติกเป็นกิจกรรมที่สําคัญมากและเป็นหัวใจของการจัดการศึกษา โดยเน้นให้เยาวชนและชาวกรีกทุกคนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมมนาสติกอย่างจริงจังเพื่อที่จะพัฒนา ชาวกรีกเป็นคนที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง โดยนําเอากิจกรรมต่างๆ มาประกอบ เช่น ยืดหยุ่น การเต้นรําประกอบดนตรี การวิ่ง การกระโดด ไต่เชือก การขว้าง การปา การพุ่ง การทุ่ม และเกมต่างๆ ในสมัยโบราณตอนต้น โรมันได้ลอกแบบกิจกรรมการออกกําลังกายของกรีกไปดัดแปลง เพื่อใช้สร้างความแข็งแรงให้กับทหารในกองทัพ ยิมนาสติกของชาวโรมันจึงเน้นเพื่อผลประโยชน์ทางการทหารเป็นสําคัญ เช่น การวิ่ง การกระโดดขึ้นและลงจากหลังม้า การกระโดดข้ามม้า การพุ่งหอก การขว้างหิน ฟันดาบ ไต่เชือก ไต่กําแพงและมวยปล้ํา เป็นต้น ต่อมาเมื่อกรีกและโรมันเสื่อมอํานาจลง กิจกรรมยิมนาสติกและการออกกําลังกายต่างๆ ก็ถูกทอดทิ้งไปโดยสิ้นเชิง จนกระทั่งมาถึงยุคฟื้นฟูวิทยาการ ยิมนาสติกก็เริ่มฟื้นฟูขึ้น และ ได้กระจายออกไปสู่ประเทศต่างๆ ในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเยอรมนีได้มีการพัฒนา อย่างจริงจัง จนทําให้ยิมนาสติกเจริญก้าวหน้ามาถึงทุกวันนี้ กีฬายิมนาสติก เป็นกิจกรรมกีฬาอย่างหนึ่ง ที่รวบรวมเอากิจกรรมการเคลื่อนไหว ของมนุษย์มาเล่นภายใต้กฎกติกาที่กําหนดขึ้น ตัวอย่างของการนําเอาทักษะการเคลื่อนไหวเบื้องต้นมาใช้ เช่น การกลิ้งตัว การม้วนตัว การทรงตัว การสปริงตัว การเคลื่อนไหวกลางอากาศ และบนที่สูง เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยพัฒนาการทํางานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อของร่างกายให้ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และจะส่งผลทําให้ร่างกายมีความแข็งแรง อดทน และความอ่อนตัว อันเป็นสิ่งจําเป็นต่อการดํารงชีวิต ในเรื่องการแข่งขันกีฬายิมนาสติกก็เช่นเดียวกัน ความว่องไว ปัจจุบันนี้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมีมากขึ้น และเข้ามามีบทบาทสําคัญต่อ กีฬายิมนาสติก ทั้งในด้านการเสริมสร้างความแข็งแรงของนักกีฬา อุปกรณ์การเล่น และลักษณะหาทาง ลีลาการเล่นในอุปกรณ์แต่ละอย่าง ทําให้กีฬายิมนาสติกได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น กีฬายิมนาสติกในประเทศไทย สําหรับความเป็นมาของยิมนาสติกในประเทศไทยนั้น ไม่มีหลักฐานปรากฎแน่ชัดว่าได้ เริ่มมาตั้งแต่สมัยใด และใครเป็นผู้นําเข้ามาเผยแพร่ แต่พอจะสันนิษฐานได้ว่า 1.โดยบุคคลนํามา กิจกรรมการออกกําลังกายโดยใช้อุปกรณ์เป็นส่วนประกอบ เช่น ราวเดียว ราวคู่ ม้ากระโดด คงจะมีในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะมี ข้าราชการไทยไปศึกษาในประเทศทางทวีปยุโรปที่มีการเล่นยิมนาสติกกันอย่างแพร่หลาย เมื่อได้ สําเร็จการศึกษากลับมาก็ได้นําเอาความรู้และประสบการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับยิมนาสติกเข้ามาเผย แพร่ในหน่วยงานของตน และมักจะนําเข้ามาฝึกทหารในกองทัพไทย จนหน่วยราชการอื่นๆ เห็นดีด้วยจึงได้เริ่มส่ง เสริม ดังที่กระทรวงธรรมการได้เห็นว่าเป็นประโยชน์ในการฝึกร่างกาย และจิตใจได้เป็นอย่างดี (กระทรวงธรรมการปัจจุบันคือกระทรวงศึกษาธิการ) จึงได้ตั้งสถานที่ฝึก ในบริเวณโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยขึ้น และต่อมากระทรวงธรรมการได้จัดเอาวิชายิมนาสติก เป็นวิชาชุดครูมัธยม และจัดสอนในโรงเรียนฝึกหัดครูพลศึกษา และจัดเข้าในหลักสูตรของโรง เรียนระดับมัธยมศึกษาหมวดวิชาพลานามัยด้วย 2. โดยนําตําราเข้ามา เนื่องจากวิชายิมนาสติกมีความเจริญก้าวหน้ามาก่อนในต่างประเทศจึงมีผู้คิดค้นเขียน และรวบรวมเป็นตําราขึ้น ประกอบกับการศึกษาวิชาการต่างๆ ได้แพร่หลาย ไปทั่วโลก ดังนั้นตํารายิมนาสติกก็ย่อมเข้ามาในประเทศไทยได้ด้วยเช่นกัน เมื่อมีผู้สนใจอ่าน ได้รู้ จึงทดลองฝึกหัดและปฏิบัติดูบ้าง โดยเฉพาะครูพลศึกษาทั่วไปย่อมมีความสนใจเป็นอันดับแรก วิชานี้จึงค่อยๆ แผ่กว้างเป็นที่นิยมโดยลําดับมา ปัจจุบันกีฬายิมนาสติกในประเทศไทย ได้รับความสนใจจากบุคคลในวงการกีฬา ใน ระดับโรงเรียนได้บรรจุวิชายิมนาสติกให้นักเรียนได้เรียนเพื่อเป็นพื้นฐานของการเรียนกิจกรรม กีฬาอื่นๆ ในการแข่งขันกีฬาระดับชาติ ก็ได้บรรจุกีฬายิมนาสติกให้มีการแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลา การแข่งขันกีฬานานาชาติประเทศไทยประสบความสําเร็จในระดับซีเกมส์ แต่ระดับเอเชียนเกมส์ หรือโอลิมปิก ยังคงต้องพัฒนาต่อไปอีกนาน กีฬายิมนาสติกเหมาะสําหรับคนไทย เพราะเป็นกีฬาที่ไม่มีความ เสียเปรียบในเรื่องรูปร่างกับชนชาติอื่น และเป็นการเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงอีกทั้งยังมีรูปร่าง สวยงามอีกด้วย สมาคมยิมนาสติกแห่งประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๑ และ สหพันธ์ยิมนาสติกสากลได้รับเข้าเป็นสมาชิก รวมทั้งเป็นสมาชิกโอลิมปิกเมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๖ ยิมนาสติก (Gymnastics) หมายถึง กิจกรรมหรือกีฬาชนิดหนึ่งที่มีการเคลื่อนไหว ด้วยมือเปล่า หรือเคลื่อนไหวบนอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งต้องมีการแสดงถึงลีลาและจังหวะสวยงาม และสัมพันธ์กัน อันแสดงออกถึงความแข็งแรง ความคล่องตัว ความอ่อนตัว ความอดทนและความสมดุลของร่างกาย ประเภทของการแข่งขันยิมนาสติก การแข่งขันยิมนาสติกสากล แบ่งการแข่งขันออกเป็นดังนี้ 1.ประกอบด้วยการแข่งขันท่าต่างๆ ดังต่อไปนี้ 1.1 ฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ 1.2 ราวเดี่ยว 1.3 ราวคู่ 1.4 ม้าหู 1.5 ม้ากระโดด 1.6 ห่วง 2. ยิมนาสติกหญิง ,ประกอบด้วยการแข่งขันในท่าต่างๆ ดังต่อไปนี้ 2.1 ฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ 2.2 ราวต่างระดับ 2.3 คานทรงตัว 2.4 ม้ากระโดด
|
![]() |
กลับไปยังหน้าแรก วิชา ยิมนาสติก |